Published by Crackers Books


8 October 2024

https://crackersbooks.com/freereads

Free-Reads

กองบรรณาธิการ Crackers Books



บทวิจารณ์หนังสือ: Wealth and Power: Philosophical ​Perspectives (บรรณาธิการโดย Michael Bennett, Huub ​Brouwer, และ Rutger Claassen)



Bennett, M., Brouwer, H., & Claassen, R. (Eds.). (2023). Wealth and power: Philosophical perspectives. ​Routledge. https://doi.org/10.4324/9781003173632



หนังสือ Wealth and Power: Philosophical Perspectives บรรณาธิการโดย Michael Bennett, Huub ​Brouwer, และ Rutger Claassen เป็นการสำรวจเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งและอำนาจ​ทางการเมือง โดยมีการสนทนาอย่างลึกซึ้งผ่านมุมมองทฤษฎีทางปรัชญาหลายสำนัก ตีพิมพ์ภายใต้ชุดหนังสือ ​Routledge Studies in Contemporary Philosophy หนังสือเล่มนี้นำเสนอประเด็นที่หลากหลาย ตั้งแต่ทฤษฎี​ประชาธิปไตยไปจนถึงเศรษฐกิจตลาด พร้อมด้วยการวิเคราะห์สหวิทยาการที่ผสมผสานความรู้จากปรัชญา​การเมือง เศรษฐศาสตร์ และกฎหมาย บทวิจารณ์นี้จะเน้นไปที่ข้อถกเถียงหลักของหนังสือและความสำคัญของ​เนื้อหาในบริบทการเมืองร่วมสมัย


ภาพรวมและโครงสร้างของหนังสือ


หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นสามส่วนหลัก ได้แก่:


1. แนวคิดทางทฤษฎี

2. อำนาจในมิติทางเศรษฐกิจ

3. ความมั่งคั่งและสถาบันประชาธิปไตย


แต่ละส่วนมีการนำเสนอในมุมมองที่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนแต่เกี่ยวข้องกับประเด็นความมั่งคั่งและอำนาจ ส่วนแรก​จะมุ่งเน้นไปที่มุมมองทางทฤษฎีดั้งเดิมและสมัยใหม่ เช่น เสรีนิยม มาร์กซิสม์ อนาธิปไตย และสาธารณรัฐนิยม ​ส่วนที่สองจะมุ่งเน้นไปที่อำนาจทางเศรษฐกิจในบริบทการกำกับดูแลองค์กร เทคโนโลยีขนาดใหญ่ และระบอบ​ทรัพย์สินส่วนรวม ส่วนสุดท้ายจะสำรวจว่าความเหลื่อมล้ำทางความมั่งคั่งส่งผลกระทบต่อสถาบันประชาธิปไตย ​เช่น การวิ่งเต้น และรัฐธรรมนูญอย่างไร


ข้อถกเถียงและประเด็นสำคัญ


หัวข้อหลักของ Wealth and Power คือ การที่ทฤษฎีประชาธิปไตยแบบดั้งเดิมล้มเหลวในการกล่าวถึงผลกระทบ​ของความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่ทำลายความเสมอภาคทางการเมือง บรรณาธิการชี้ให้เห็นว่าการสะสมความ​มั่งคั่งมักแปรเปลี่ยนเป็นอำนาจทางการเมือง ทำให้หลักการประชาธิปไตยบิดเบือนและเสื่อมถอยลง


จุดแข็งของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่การใช้แนวคิดแบบสหวิทยาการเพื่อนำเสนอประเด็นปัญหา โดยการเชื่อมโยงช่อง​ว่างระหว่างทฤษฎีการเมืองเชิงนามธรรมกับการวิเคราะห์เชิงประจักษ์ของระบบเศรษฐกิจการเมืองร่วมสมัย ​หนังสือเล่มนี้นำเสนอมุมมองใหม่ว่าความมั่งคั่งในฐานะของอำนาจส่วนตัวสามารถแทรกซึมเข้าไปในอำนาจ​ทางการเมืองได้อย่างไร และสามารถทำลายเส้นแบ่งระหว่าง “สาธารณะ” และ “เอกชน” ในระบอบเสรีนิยมได้​อย่างไร


ส่วนที่ 1: แนวคิดทางทฤษฎี


บทต่างๆ ในส่วนนี้ได้สร้างพื้นฐานโดยการนำเสนอเลนส์เชิงทฤษฎีที่แตกต่างกันเพื่อทำความเข้าใจความมั่งคั่ง​และอำนาจ ตัวอย่างเช่น บทของ Richard Arneson เกี่ยวกับเสรีนิยมแบบเสมอภาค (Egalitarian Liberalism) ​ได้เปรียบเทียบแนวคิดเสมอภาคแบบสวัสดิการ (Welfarist Egalitarianism) และแนวคิดเสมอภาคเชิงความ​สัมพันธ์ (Relational Egalitarianism) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการตีความที่ต่างกันของคำว่า “ความเสมอภาค” ส่งผล​ต่อความเข้าใจเกี่ยวกับอำนาจทางการเมืองอย่างไร ขณะที่การนำเสนอในบทของ Igor Shoikhedbrod ได้อธิบาย​แนวคิดมาร์กซิสม์ โดยเน้นความขัดแย้งภายในระบอบทุนนิยมประชาธิปไตย ที่ซึ่งการกระจุกตัวของความมั่งคั่งน​ำไปสู่ความไม่เท่าเทียมกันทางการเมืองในเ​ช​ิงโครงสร้าง


บทของ Jessica Flanigan เกี่ยวกับอนาธิปไตย (Anarchism) นำเสนอมุมมองวิพากษ์ที่ท้าทายค​วามคิดแบบเสรีประชาธิปไตย โดยกล่าวว่า แม้แต่รัฐเสรีประชาธิปไตยก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงลักษณะบีบบังคั​บของโครงสร้างความมั่งคั่งและอำนาจได้ บทนี้ตั้งคำถามกับสมมติฐานพื้นฐานของการแบ่งแยกสาธารณะ​/เอกชนในลัทธิเสรีนิยม และเป็นการปูพื้นฐานสำหรับการอภิปรา​ย​ในบทต่อๆ มา


ส่วนที่ 2: อำนาจในมิต​ิ​ทางเศรษฐกิจ


ส่วนที่สองมุ่งเน้นไปที่บทบาทขององค์กรธุรกิจและการกุศลในเชิงการเมือง Thomas Christiano​ เสนอว่าการมีส่วนร่วมของพนักงานในการกำกับดูแลองค์กรเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิ​จ พร้อมทั้งลดการกระจุกตัวของอำนาจในหมู่เจ้าของกิจการได้ ขณะที่ Emma Saunders-Hastings เปรียบเท​ียบความเกี่ยวพันทางการเมืองของ CSR (ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร) กับการบริจาคของเศรษฐี โดยส​รุปว่าแม้ว่า CSR จะมีข้อจำกัด แต่ก็ยังคงมีผลกระทบต่อความชอบธรรมของประชาธิปไตยน้อยกว่าการบ​ริจาคที่มีจุดประสงค​์​ทางการเมือง


นอกจากนี้ยังมีการวิพากษ์การกำกับดูแลบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ โดยชี้ให้เห็นถึงข้อบกพร่อ​งของกฎหมายต่อต้านการผูกขาดในปัจจุบันในการควบคุมอำนาจทางการเมืองของบริษัทเหล่านี้ ผู้เขียนแนะนำ​ให้ขยายขอบเขตการกำกับดูแลเพื่อครอบคลุมถึงประเด็นเรื่องความเป็นอิสระของปัจเจกบุคคลและความสมบูรณ​์ของกระบวนกา​ร​ทางการเมือง


ส่วนที่ 3: ความมั่งคั่งและสถาบั​น​ประชาธิปไตย


ส่วนสุดท้ายของหนังสือสำรวจว่าความเหลื่อมล้ำทางความมั่งคั่งส่งผลกระทบต่อสถาบันประชาธิ​ปไตย เช่น การวิ่งเต้น การเงินของพรรคการเมือง และรัฐธรรมนูญอย่างไร Phil Parvin นำเสนอการวิจารณ์เชิ​งลึกเกี่ยวกับบทบาทของกลุ่มผู้วิ่งเต้นในประชาธิปไตยร่วมสมัย โดยเน้นว่าการเพิ่มขึ้นของอิทธิพลกลุ่มวิ่​งเต้นได้ทำลายบรรทัดฐานของประชาธิปไตยและทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางการเมืองเพิ่​ม​ขึ้นอย่างไร


Chiara Destri เสนอการจัดการเรื่องเงินทุนในการรณรงค์ของพรรคการเมืองในเชิงลึก โดย​แนะนำระบบบัตรกำนัล (voucher) ที่ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการภายในพรรค เพื่อจัดการ​กับอิทธิพลของความมั่งคั่งและเสริมสร้างความเป็นประชาธิป​ไ​ตยภายในพรรค


บทสุดท้ายโดย Elliot Bulmer และ Stuart White กล่าวถึงศักยภาพของการปฏิรูปรัฐธรรมนูญเพ​ื่อต่อต้านแนวโน้มของการครอบงำโดยกลุ่มทุน พร้อมเสนอคำแนะนำในการลดผลกระทบของความมั่งคั่งที่ม​ีต่อกระ​บ​วนการ​น​โยบาย


สรุป


Wealth and Power: Philosophical Perspectives เป็นหนังสือที่มีคุณูปการสำคัญต่​อวรรณกรรมด้านปรัชญาการเมืองและเศรษฐศาสตร์การเมือง การนำเสนอมุมมองเชิงสหวิทยาการและการเชื​่อมโยงประเด็นการเมืองร่วมสมัยทำให้หนังสือเล่มนี้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าสำหรับนักวิชาการและนักศึกษาที่​ต้องการทำความเข้าใจความสัมพันธ์เชิงซ้อนระหว่างความมั่งคั่งและอำนาจทางการเมือง ด้วยการรวบรวมมุมมอ​งทฤษฎีที่หลากหลายและประยุกต์ใช้กับคำถามทางการเมืองที่เร่งด่วน หนังสือเล่มนี้จึงเสนอแนวคิดที่ท้า​ทายความคิดแบบดั้งเดิมเกี่ยวกับประชาธิปไตยและความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ โดยรวมแล้ว หนังสือเล่มนี้เหมา​ะสำหรับผู้ที่ต้องการเจาะลึกความเข้าใจเกี่ยวกับรากฐานทางปรัชญาของความมั่งคั่งและอำนาจ รวมถึงผลกระ​ทบที่มีต่อการปกครองระบอ​บ​ประชาธิปไตย


Download Click Button
Realistic Round Cracker